วันนี้อยู่กันในท่าน้ำนนท์ 1 วัน ที่เที่ยวนนทบุรีที่น่าสนใจอีก 1 สถานที่ เพราะเดินทางมาไม่ใกล้จากกรุงเทพ โดยต้องบอกก่อนว่าผมมาที่ท่าน้ำนนท์บ่อยมากในตอนเด็กๆ เพราะมาชอบมาซื้อของกินและข้าวตังไปทำ โดยวันนี้เราได้กลับมากันที่นี่อีกครั้ง อย่างแรกคือท่าน้ำนนท์ไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเลยเพราะที่อย่างยังเหมือนเดิมทั้งวิถีชีวิตของผู้คนและตัวจุดเที่ยวที่เราจะพาในบทความนี้ ท่าน้ำนนท์ยังคงมีความขลังและสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองอยู่ในตัวมันเองเสมอ ซึ่งท่าน้ำนนท์นั้นเหมาะกับคนที่ต้องการเที่ยวใกล้กรุงเทพแต่ไม่รู้จะมาที่ไหนก็มาเที่ยวแบบเดินเล่นชิลล์ในท่าน้ำนนท์ได้เลย ซึ่งก็มีจุดเที่ยวหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ตลาดนนท์ หอนาฬิกา ศาลากลางนนทบุรีหลังเก่า และอื่นๆ
มาท่าน้ำนนท์กันแล้ว แต่ยังไม่รู้ว่าจุดเที่ยวที่น่าสนใจของที่นี่มีที่ไหนบ้าง ลองมาอ่านหัวข้อนี้ดูเราจะมาแนะนำให้
เผื่อคนที่อยากมาเที่ยวท่าน้ำนนท์แต่ยังไม่รู้ว่าท่าน้ำนนท์มีจุดไหนที่เป็นแลนด์มาร์คของที่นี่บ้าง วันนี้จะมาแนะนำเบื้องต้นให้หน่อยนะ
- หอนาฬิกาท่าน้ำนนท์
ตั้งอยู่ที่ตลาดท่าน้ำนนท์ ในจังหวัดนนทบุรี เป็นหอนาฬิกาที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2497 โดยกระทรวงมหาดไทยในสมัยก่อน เพื่อให้ตระหนักถึงวัฒนธรรมการตรงต่อเวลา ตัวหอนาฬิกาได้รับการออกแบบให้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองนนทบุรี โดยประกอบไปด้วยตัวเรือนาฬิกายี่ห้อ Tag Heuer ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีความสูง 17 เมตร ตอนบนมีหน้าปัดนาฬิกา 4 ด้าน และมีไก่อยู่บนยอด
- ศาลากลางจังหวัดนนทบุรี (ท่าน้ำนนท์)
อาคารเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมของจังหวัดนนทบุรี ตั้งอยู่ที่ท่าน้ำนนท์ อาคารนี้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2457 และใช้เป็นที่ทำการของทางการจังหวัดนนทบุรีจนถึงปี พ.ศ. 2501 ก่อนที่จะย้ายไปยังที่ตั้งใหม่ในปัจจุบัน โดยลักษณะอาคารเป็นสถาปัตยกรรมแบบยุโรปสมัยใหม่ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 โดยมีการใช้วัสดุไม้และอิฐในการก่อสร้าง เป็นอาคาร 2 ชั้นที่มีความโดดเด่นทั้งในเรื่องของดีไซน์ภายนอกและภายใน นอกจากนี้ยังมีการตกแต่งอย่างละเอียดในสไตล์คลาสสิกที่สะท้อนถึงอิทธิพลของการออกแบบในช่วงเวลานั้น ปัจจุบันยังคงเปิดให้เข้าเยี่ยมชมได้โดยภายในจะแสดงวัตถุโบราณที่ขึ้นชื่อของจังหวัดนนทบุรี อาทิเช่น เครื่องปั้นดินเผา เป็นต้น
- ศาลเจ้าปึงเถ่ากงม่า เจ้าแม่ทับทิม (ท่าน้ำนนท์)
เป็นศาลเจ้าที่ตั้งอยู่บริเวณท่าน้ำนนท์ในจังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นสถานที่เคารพบูชาเจ้าแม่ทับทิม หรือเทพเจ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คนในท้องถิ่นเคารพและเชื่อกันว่าเป็นผู้ให้ความคุ้มครองและช่วยเหลือเรื่องโชคลาภและความสำเร็จในชีวิต ที่เห็นเป็นรูปทรงแบบจีนเพราะชาวจีนแต่ก่อนที่มาค้าขายในย่านนี้ได้ได้ร่วมกันสร้างศาลแห่งนี้ขึ้นมาใหม่จากความศรัทธานั่นเอง
- ตลาดท่าน้ำนนท์
ตั้งอยู่ถนนประชาราษฎร์ เป็นตลาดซึ่งมีร้านอาหารชื่อดังหลายๆร้านตังอยู่ตลอดทาง อาทิเช่น ขนมไข่แม่ไน้ นนท์เบเกอรี่ เป็นต้น และยังมีอาหารและของใช้หลากหลายให้เลือกซื้อได้ตลอดแนว อีกทั้งยังมีของแปลกๆของโบราณที่เราไม่เคยเห็นอีกด้วย
ระหว่างวันที่อยู่ในท่าน้ำนนท์ เราได้ทำหลายๆอย่างซึ่งหลากหลายและสนุกมากๆ
โดยพอเรามาถึงท่าน้ำนนท์นั้น เราก็ไม่รีรอรีบเดินสำรวจสถานที่ทันที่ว่ามีอะไรแตกต่างไปจากเดินที่เคยมาหรือเปล่า ซึ่งต้องบอกว่าท่าน้ำนนท์นั้นมีร้านให้เลือกดูเยอะมาก คนที่มาก็ปักร้านที่ตัวเองอยากจะไปอยากกินเอาเองนะครับ
- จุดแรกแวะร้านอาหารแถวหอนาฬิกา
วนหาที่จอดสักพักเราก็ได้ที่จอดฟรีอยู่ใกล้ๆกับท่าขึ้น เราหิวกันมากเลยขอไปกินร้านอาหารที่อยากกันก่อน ร้านแรกที่แวะซื้อคือ กุยช่าย 7 สี ร้านตั้งอยู่ใกล้ๆกับหอนาฬิกาเลย ส่วนฟ้าอยากกินก๋วยเตี๋ยวหลอดเลยซื้อติดมือไปอีก 1 อย่าง
พอเดินออกมาจากร้านกุยช่าย ผมก็เหลือบไปเห็นร้านขนมปัง 85 ในตำนาน ต้องบอกเลยว่าร้านนี้เคยกินมานานแล้ว ถ้าเราไปซื้อจาดร้านข้างนอกที่รับมาขายบอกเลยว่าราคาแพงเอาเรื่อง แต่วันนี้ได้มาถึงถิ่นเค้า เราก็ต้องแวะซื้อสั่งหน่อย ผมซื้อขนมปังไส้กรอกแฮมมากิน 1 แถว ทีแรกอยากกินขนมปังแฮมชีสแต่หมด แนะนำถ้ามาร้านนี้ให้โทรจองล่วงหน้าก่อนสัก 4 ชม. เนื่องจากจนมปังหมดเร็วมากก
แล้วเราก็เดินข้ามถนนไปกินร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อชื่อร้านว่า “ก๋วยเตี๋ยวเมืองนนท์” ตอนเราไปหลังเที่ยวแล้ว แต่ต้องบอกว่าคนเยอะมาก สั่งก๋วยเตี๋ยวมากินคนละจาน บอกเลยว่าเนื้อกับเครื่องในของเขาหอมมากๆ กินก๋วยเตี๋ยวเสร็จเราก็แกะของกินที่ซื้อติดมือมาก่อนหน้านี้กินกัน แต่ละอย่างอร่อยมากๆอาจจะเพราะไม่ได้กินมานานก็เป็นได้ ><
- เช็คอินที่หอนาฬิกา
กินกันอิ่มแล้วเราก็เดินย้อนหลับมาเช็คอินที่จุดแลนด์มาร์คของที่นี่ก่อนนั่นคือหอนาฬิกา ได้เดินเล่นชมวิวแม่น้ำและถ่ายรูปกันพอหอมปากหอมคอ เพราะที่เราเดินเราเล่นๆกันนี้ เพื่อให้ร้านค้าหลายๆร้านเปิดกันก่อน เพราะบางร้านที่เราเดินผ่านๆมานั้นยังไม่เปิดดี
- แวะไปดูศาลากลางหลังเก่า
ตอนแรกที่เข้าไปเราไม่กล้าขึ้นไปข้างบนเพราะว่ากลัวไม้หัก แต่พอไปอ่าน “อ้าว มันขึ้นได้” ก็เลยลองขึ้นไปดู ข้างในจะเป็นพิพิธภัณฑ์โชว์เกี่ยวกับภูมิปัญญาของชาวนนทบุรีสมัยก่อน วิวสวยมากเมื่ออยู่บนชั้น 2 แล้วมองออกไปตรงท่าเรือ เหมือนได้เห็นวิวมุมกว้างแบบเต็มตามาก ซึ่งศาลาหลังเก่าด้านในเราอาจจะไม่สามารถถ่ายให้ดูได้ทั้งหมด เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปด้านใน และเราต้องเคารพกฎ
- ไปไหว้ศาลเจ้าปึงเถ่ากงม่า เจ้าแม่ทับทิม
เดินเล่นๆไปดูศาลเจ้าแม่ทับทิม เพราะตรงจุดนี้ผมเองก็ยังไม่เคยเข้าไป ปกติจะเห็นผ่านๆเวลาวนรถออกจากที่จอด แต่วันนี้มากับฟ้าเลยลองพากันเข้าไปข้างใน ซึ่งบรรยากาศภายในการให้ความรู้สึดแบบศาลจีน ตอนเราเข้าไปก็มีคนมากราบไหว้ขอพรกันอยู่ ส่วนเรา 2 คน ยืนไหว้กันอยู่ด้านนอกขอพรกันเล็กน้อย
- แวะร้านนนท์เบเกอรี่
หลังจากไหว้ศาลเสร็จ เราก็เดินออกมาเพื่อจะไปที่ตัวตลาดท่าน้ำนนท์ แต่ผ่านร้าน “นนท์เบเกอี่ก่อนเลยแวะให้ฟ้าเข้าไปซื้อขนมไปฝากที่บ้านก่อน ซึ่งร้านนี้ก็ถือเป็นร้านดังในย่านท่าน้ำนนท์เลย เนื่องจากจนมปังมีหลากหลายแบบ ราคาไม่แพง และทำสดใหม่จากโรงงาน ซึ่งรับประกันความอร่อยและคุ้มค่าจากคนที่มาต่อคิวซื้อในร้านก็เพียงพอ
- เข้าไปดูตัวตลาดท่าน้ำนนท์
ก่อนเข้าไปดูตลาดเราก็แวะซื้อเก๊กฮวยเย็นๆชื่นใจกินกันก่อนบอกเลยว่าร้านนี้ขายมานานมากจุดเด่นคือเก๊กฮวยของเค้าจะเป็นเกร็ดรสชาติไม่หวาน และเราก็เข้าไปในตลาดกันต่อฟ้าแวะซื้อขนมไข่แม่ไน้กลับบ้านไปฝากแม่ ส่วนผมเดินดูของไปเพลินๆ
- กินอาหารที่โซนร้านอาหารกลางคืน
ระหว่างรอร้านอาหารเปิดเราไปนั่งเล่นที่ริมแม่น้ำ มองดูผู้คนที่สัญจรไปมาตอนเย็น พอได้เวลาก็ไปกินข้าวเย็นกัน โดยผมซื้อปลาหมึกย่าง, หมูสะเต๊ะ ไปนั่งกินที่ร้านอาหารตามสั่ง โดยโซนนี้เราสามารถนั่งที่โต๊ะก่อนและสั่งอาหารของแต่ละร้านมากินได้บอกเลยว่าสะดวกมากๆ
มาพูดถึงความรู้สึกทริปเที่ยวท่าน้ำนนท์กัน
ความรู้สึกแรกคือเราจะกลับมาเที่ยวอีกแน่นอน เพราะมีหลายโซนที่ยังเดินไม่ครบ หลายร้านที่ยังไม่ได้แวะ ท่าน้ำนนท์ทำให้รู้สึกถึงอารมณ์ของตัวเมืองเก่าที่ยังไม่ของโบราณๆขายอยู่ แม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนไปแต่คนที่นี่ก็ยังคงอนุรักษ์วัฒนธรรมหรือวิถีชีวิตอันดีงามไว้อยู่ รวมทั้งสถานที่ที่มีมนต์คลังน่าหลงใหล ผู้คนที่มาเดินที่นี่ก็มีทุกช่วงวัย ซึ่งผมคิดว่าสถานที่นี้ก็จะยังอยู่ให้เรามาสัมผัสได้ตลอดไป แนะนำสำหรับผู้ที่เดินทางมาก็แต่งตัวสบายๆกันหน่อยนะ เพราะว่าอากาศที่นี่ค่อยข้างร้อน เดี๋ยวจะเป็นลมกันก่อนได้ซื้อของ ><
บรรยายความรู้สึกกันไปแล้ว มาลองดูสิว่าท่าน้ำนนท์มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่บ้าง ?
|
รายการค่าใช้จ่ายทริปท่าน้ำนนท์ |
|
| รายการค่าใช้จ่าย | ราคา |
| กุยช่าย 7 สี + ก๋วยเตี๋ยวหลอด | 80 บาท |
| ขนมปัง 1 กล่อง (4 แถว) | 152 บาท |
| ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ 3 ชาม | 176 บาท |
| น้ำเก๊กฮวย 1 แก้ว | 20 บาท |
| ขนมปังร้านนนท์เบเกอรี่ | 60 บาท |
| น้ำเปล่า 3 ขวด | 21 บาท |
| หมูสะเต๊ะ ชุดใหญ่ | 100 บาท |
| ปลาหมึกย่าง 2 ไม้ | 40 บาท |
| อาหารตามสั่ง 3 จาน | 200 บาท |
| โอวัลตินภูเขาไฟปั่น 1 แก้ว | 40 บาท |
| รวมค่าใช้จ่าย 1 วัน = 889 บาท | |
ดูรายการค่าใช้จ่ายทริปท่าน้ำนนท์แล้วเป็นยังไงกันบ้าง 2 คนไปเที่ยวด้วยกันซื้อไปหลายอย่างก็ยังไม่ถึง 1,000 บาทนะ รายการที่สรุปให้บางอย่างเราก็กินกันไม่หมด เพราะได้เยอะมากๆ ส่วนของบางอย่างก็ซื้อกลับไปฝากคนที่บ้านด้วย ซึ่งข้อดีของท่าน้ำนนท์ก็นั่นแหละครับ เป็นเรื่องราคาของอาหารและของใช้ไม่ว่าจะเป็นของท่าเล่น เนื่องจากราคาที่ไม่แพงแลกกับของกินที่อร่อยในท่าน้ำนนท์ ซึ่งมาเที่ยวคุณก็อาจจะไม่ต้องเตรียมเงินมาเยอะ แต่จะอดใจไม่ซื้อของได้มั้ยล่ะ
อ่านมาถึงตรงนี้และเกิดอยากดูคลิปท่าน้ำนนท์ กดดูได้เลย
หากดูเนื้อหาท่าน้ำนนท์แล้วชอบ จะดูเราได้ที่ไหนบ้างละ ?
- คลิปเต็ม Youtube : https://www.youtube.com/@tripkub
- Facebook : https://www.facebook.com/tripkubchannel/
- Instagram : https://www.instagram.com/tripkub/
- Tiktok : https://www.tiktok.com/@tripkub
ถ้าอ่านทริปท่าน้ำนนท์เที่ยวนนทบุรีของเรากันแล้วรู้สึกชอบ ลองมาอ่านบทความการท่องเที่ยวอื่นๆของเรากันบ้าง